ครูบาแก้ว อริยวํโส เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก วัดถ้ำบาดาล หมู่4 ต.ลำพญากลาง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ตะวันเริ่มทอแสง...แดดที่ร้อนแผดกล้าก็อ่อนลงความเย็นเริ่มปรากฏ...มองออกไปสุดสายตาในทางเดินที่เลาะริมชายเขา ก็เห็นพระผู้จาริกเดินธุดงค์มาแต่ไกล เมื่อท่านเดินเข้ามาใกล้ๆจึงรู้ว่าเป็นพระภิกษุรูปร่างเล็กสันทัด ห่มผ้าจีวรสีเหลืองหม่น ถือกรดสะพายบาตรมา จีวรสังเกตดูชุ่มไปด้วยเหงื่อ จึงเข้าไปกราบมนัสการ และ สอบถามว่าท่านกำลังไปที่ใด คำตอบท่านบอกว่า”อาตมากำลังจะไปถ้ำบนภูสองชั้น” จึงชี้ไปที่ภูเขาลูกหนึ่ง ซึ่งไม่ห่างจากที่นี้พอมองเห็นไกลๆ จากนั้นท่านก็เดินจากไปด้วยอาการเงียบสงบ ถึงแล้วสถานที่เหมาะกับการบำเพ็ญ ท่านเล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า “วันนั้นอาตมาเดินธุดงค์มาจากเขตอำเภอปากช่อง จากน้ำตกซับหินแก้ว บริเวณที่พักบำเพ็ญปฏิบัติอยู่นานพอสมควรแล้ว พอดีได้ยินข่าวจากครูบาอาจารย์ที่เดินธุดงค์ผ่านมาก่อนหน้านี้ คือ หลวงพ่อชาญ ปิยวณํโณ ว่าที่เขตมวกเหล็กมีถ้ำอยู่หลายแห่ง ที่ท่านเดินไปพบมา ให้ลองไปภาวนาดู ในช่วงพรรษาญาติโยมที่วัดถ้ำพรหมประดิษฐ์ก็ได้พามาเที่ยวชมครั้งหนึ่งแล้ว มาพบถ้ำที่นี้เหมาะมากอยู่บนภูสองชั้น ห่างไกลจากเสียงผู้คน เงียบสงบ ถ้ำก็กว้างขวาง สวยงาม เย็นสบาย มีที่พอปักกรด เดินจงกรม นั่งสมาธิ จากวันนั้นที่ได้มาพักที่ถ้ำนี้ ก็ได้บำเพ็ญสมณะธรรม ภาวนาจนจิตสงบลงสู่สมาธิอันแนบแน่น ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน” และนี้เองที่เป็นสิ่งที่ให้ท่านได้อยู่มาจนถึงทุกวันนี้ เพราะเหตุแห่งจิตที่เต็มอิ่มด้วยสมาธิวิธี ต้องรู้ให้เท่าทันกิเลสตัวเอง คำว่ามารคือ สิ่งที่มาขวางทางแห่งความดี มันได้แฝงมาในรูปแบบต่างๆโดยที่เราไม่รู้ตัว ท่านเล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า”วันนั้นจิตของอาตมาเข้าสู่องค์ของสมาธิแล้วตั้งแต่ช่วงเช้า มีสติและสัมปชัญญะตลอดเวลา พอออกจากสมาธิมาก็มองเห็นโลกเรามีแต่ความสว่างและนิ่มนวล จิตมีแต่ความเย็นสบาย ใจรู้สึกถึงความสุข ที่ไม่เคยได้รับมาก่อนในชีวิต อาตมาหวนคิดไปนึกถึงคนที่อยู่ทางบ้านและที่อยู่ทางโลกยังเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน จากการแบกรับภาระอันหนักอึ้ง ใบหน้าบางคนชุ่มไปด้วยเหงื่อ บางคนก็ชุ่มไปด้วยน้ำตา อนิจจา นี้หรือโลกเราที่ผู้ไม่รู้ยังหลงอยู่ คิดว่ามันมีแต่ความสุข อาตมามองเห็นสุนัขเดินเข้ามาในขนาดนั้น รู้สึกสงสารเวทนามากจนน้ำตาไหล เห็นนกที่บิน มดที่เดินบนพื้นดิน แมลงที่อยู่ในป่า ใจรู้สึกมีแต่ความสงสาร เมตตา ปรารถนาอยากให้เขาเหล่านั้นพบความสุขที่เรากำลังเป็นอยู่” สิ่งที่เป็นอยู่คือ อะไรทำให้จิตท่านปรุงแต่งไปอย่างนั้น และทำไมท่านจึงต้องน้ำตาไหล มันเป็นอำนาจของอารมณ์ปิติ หรืออย่างไร ท่านได้ให้ข้อคิดกับเราว่า”เมตตาคือมารขวางการภาวนา เมื่อใดก็ตามถ้าเรามีเมตตามากเกินประมาณ เมื่อนั้นแหละเราก็คิดแต่จะไปช่วยเหลือผู้อื่นสัตว์อื่นจนลืมหน้าที่การภาวนาของตนเองเลยที่เดียว เพราะต้องไปทำตามในสิ่งที่จะช่วยเหลือผู้อื่น สุดท้ายเราเอง ก็จะมีเวลาน้อยลงไปเรื่อยๆในการภาวนาของเราเอง แบบนี้แหละที่เราเรียกว่า “มารขวางทาง การรู้แจ้งในธรรม”เพราะฉะนั้นเราท่านนักปฏิบัติธรรม ครูบาอาจารย์จึงได้สอนนักหนาว่า “ให้รู้เท่าทันอารมณ์ของตัวเอง อย่าหลงอารมณ์ตัวเอง”ท่านครูบาแก้ว ได้ทิ้งท้ายให้ข้อคิดสำหรับเราๆท่านๆให้เราได้เกิดปัญญา ความเข้าใจ ในหลักการปฏิบัติธรรม จิตที่เมตตาเป็นเหตุให้ก่อกำเนิดสำนักปฏิบัติธรรมถ้ำบาดาล ท่านเริ่มดำหริ คิดสงเคราะห์โลก เพื่อให้มวลหมู่สัตว์ มนุษย์ทั้งหลายได้เข้าสู่ความพ้นทุกข์ จึงได้เริ่มก่อสร้างสถานที่ปฏิบัติตั้งแต่นั้นมา จากจุดเล็กๆคือเมตตาธรรมนั้นเอง มาเป็นศาลา กุฏิ ที่พักอาศัยของผู้มาปฏิบัติธรรม และได้ช่วยเหลืองานสังคมต่างๆตามที่ครูบาอาจารย์ท่านใช้ให้ทำ ตลอดจนช่วยเหลือโรงเรียนในหมู่บ้านและโรงเรียนชาวเขาเผ่าต่างๆมอบทุนให้ สถานศึกษาที่นักเรียนขาดทุนในการเล่าเรียน ได้จัดให้มีการแจกทุนทุกปี ปีละ100ทุน ในงานทำบุญประจำปีของวัดในอาทิตย์แรกของต้นเดือนพฤษภาคม จนเวลาผ่านเข้ามาได้15ปีแล้ว ภาระการงานของท่านก็มากขึ้นตามลำดับ เวลาส่วนตัวน้อยลง และก็น้อยลงๆๆ ท่านจึงได้รู้แล้วว่าถูกมารหลอกให้หลงทางจากการภาวนา มาให้สร้างบารมี เพื่อขัดขวางทางแห่งการบรรลุธรรมอันหลุดพ้นในชาตินี้ แต่ท่านก็ไม่เคยย่อท้อหรือละทิ้งการเจริญภาวนา ทั้งสมถะและวิปัสสนา และสอนให้ลูกศิษย์ที่สนใจการภาวนาได้ปฏิบัติตามเป็นจำนวนมากจนกระทั้งทุกวันนี้ แม้ท่านยังเป็นภิกษุหนุ่มอยู่ ด้วยวัยเพียง42ปีเท่านั้นเอง ประวัติครูบาแก้ว... แต่เดิมท่านได้ถือกำเนิดที่ บ้านปากชวดนกตะกุม ต.บางขาม อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี และในวัยเด็ก บิดามารดาของท่านได้ย้ายมาอาศัยอยู่กับคุณตาของท่าน ที่บ้านคลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ มีพี่น้องทั้งหมด9คน ท่านเป็นคนที่5ในพี่น้องทั้งหมดโดยคนพี่ๆได้เสียชีวิตไปก่อนแล้ว3คนกับน้องสาว1คนที่เสียชีวิตไปเมื่อวัยเด็กที่บ้านสะแกงาม กิ่งอำเภอราชสาร จ. ฉะเชิงเทรา ยังเหลือพีสาว1คนกับน้องสาว2และน้องชายอีก1คน ปัจจุบันยังคงอยู่ที่บ้านคลองด่าน “ครูบาแก้ว” เป็นชื่อที่ชาวบ้านให้เคารพนับถือเรียกกันโดยทั่วไปจนติดปาก นามเดิมเมื่อครั้งแรกเกิด ที่บิดาและมารดาตั้งให้ ชื่อ นกแก้ว กุยเอี๊ยบ (ภายหลังเปลี่ยนชื่อและนามสกุล มาเป็น พระธนภณ จิรปภาพงษ์ )วัยและชีวิตเพศฆราวาสคงเหมือนเราทั่วๆไปคือการหาอยู่หากินไปตามภาษาชาวบ้าน มีครอบครัวแต่ไม่มีบุตร เมื่อถึงเวลาการกระตุ้นเตือนของบุญบารมีที่ได้สั่งสมมาแต่อดีต จึงทำให้ท่านเห็นจีวรสีเหลืองคราวใด ใจก็นึกว่าอยากแต่จะบวช เท่านั้น พอมีโอกาสจึงได้กราบลามารดาญาติพี่น้อง และสีกา ขอลาอุปสมบท ทุกคนมีความยินดีอนุโมทนาในการบวชบำเพ็ญสร้างความดีในครั้งนี้ ท่านจึงเข้ามาสู่ร่มโพธิ์แห่งความร่มเย็น ได้เข้าขออุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่19เมษายน พ.ศ.2540 ณ พัทธสีมาวัดแจ่มราษฎร์ศรัทธาธรรม ต.สีล้ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ โดยพระครูศรีปุญญาทร เป็นอุปัชฌาย์ พระถนอม อสิญาโณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระปลัดสำรวม สีวโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ในขณะนั้นท่านอายุได้28ปี ต่อมาท่านได้เดินทางมาศึกษาปฏิบัติธรรมจำพรรษาที่วัดถ้ำพรหมประดิษฐ์ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และได้มาเที่ยวชมถ้ำบาดาล(ตอนนั้นยังไม่มีชื่อตั้งเมื่อภายหลังโดย หลวงพ่อสุวรรณ นริสโร เป็นผู้ตั้งชื่อนี้ บอกว่าถ้าได้ชื่อนี้เป็นวัดจะมีความเจริญรุ่งเรื่องมาก) ตามที่หลวงพ่อชาญ ปิยวณฺโณเคยบอกเอาไว้ ทางญาติโยมจึงได้นำท่านมาเที่ยวชมดูถ้ำ และท่านก็ได้ตั้งใจไว้ว่า เมื่อออกพรรษาแล้ว จะลองมาอยู่ที่นี้เพื่อปฏิบัติสักพักหนึ่งก่อนที่จะไปเดินธุดงค์ต่อไป ครั้งออกพรรษาในปีนั้นแล้ว ท่านได้ออกเดินธุดงค์มาพักอยู่ที่น้ำตกซับหินแก้วได้ระยะหนึ่ง จึงได้คิดถึงถ้ำบาดาลที่เคยได้ไปเทียวชมและเหมาะกับการเจริญสมณะธรรม ดูเงียบสงบ ห่างไกลจากผู้คน เพราะอยู่บนภูสองชั้น มีบ้านเพียงไม่กี่หลังพอที่จะไปขอรับบิณฑบาตได้ในยามเช้า จึงได้ตัดสินใจเก็บกรดสะพายบาตรเดินธุดงค์มาตามแนวทางเดินลัดเลาะมาตามชายป่าที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันร่มรื่น และได้พักปฏิบัติอยู่มาถึงทุกวันนี้ มีบางปีเมื่อออกพรรษาก็ไปเดินธุดงค์บ้างไปปฏิบัติธรรมตามสำนักต่างๆบ้างแล้วแต่โอกาสจะอำนวย และได้ไปศึกษาการปฏิบัติจากครูบาอาจารย์ต่างๆจนมีความศรัทธามากขึ้น จึงได้ขอญัตติเป็นพระคณะสงฆ์ธรรมยุต เพื่อให้มีความสะดวกในการเข้าหาหรือพักอาศัยกับครูบาอาจารย์ที่ท่านศรัทธา ส่วนมากจะเป็นพระในสายธรรมยุต จนกระทั้งถึงวันนี้ ได้ผ่านมาแล้ว15ปี คือวันนี้ท่านพร้อมแล้วที่จะนำพาศรัทธาญาติโยม เดินตามรอยพระบาทพระบรมศาสดา มาร่วมสร้างบารมีธรรม ปฏิบัติเป็นพุทธบูชาฉลอง2600ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธองค์ กองทุนสงฆ์อาพาธ สิ่งที่คนเราทุกคนไม่อาจหลีกหนีได้ แม้แต่พระผู้ทรงศีลก็ตาม นั้นคือ ความแก่ ความเจ็บไข้ และความตาย อันเป็นไปตามกฎของธรรมชาติ แต่เราผู้เป็นคฤหัสถ์ผู้ยังประกอบอาชีพมีเงินทอง ไม่มากมายอะไร แต่เมื่อเราเจ็บก็มีคนช่วยมีพี่มีน้องหรือญาติๆหรือมีเงินที่เก็บไว้และจากการประกันภัยที่มีในรูปแบบต่างๆในปัจจุบัน มีน้อยคนนักที่จะคิดถึงคนอื่นที่ไม่ใช่ญาติเรา ที่ยังรอความช่วยเหลือจากผู้มีใจบุญ ได้แบ่งปันชีวิตและลมหายใจ ต่ออายุของเขาได้สร้างความดีต่อไป พระภิกษุก็อยู่ในจำนวนนั้นด้วยเหมือนกันเพราะท่านได้สละชีวิตเข้ามาสร้างความดี ละทิ้งทุกสิ่งอย่างแล้ว ท่านไม่ได้ประกอบอาชีพใดๆจึงไม่มีเงินทองที่จะเก็บไว้ใช้เหมือนดั่งเราที่ทำงาน แต่เมื่อถึงคราวเจ็บป่วย หมอ หรือ โรงพยาบาลก็รักษาท่านไปตามอัตภาพ พอมีพอได้ตามสมควรถ้าเจ็บป่วยปกติธรรมดา แต่หากเจ็บฉุกเฉิน ท่านจะทำอย่างไรดีนี้คือปัญหา ค่ารถ ค่าเดินทาง ยิ่งวัดที่อยู่ห่างไกลจากตัวเมือง ลำพังแค่สถานีอนามัย คงไม่พอสำหรับการป่วยที่ฉุกเฉิน วันนี้เรามีโอกาส พอสละทรัพย์แบ่งปันความสุขเพื่อช่วยเหลือพระภิกษุอาพาธ กับ “กองทุนสงฆ์อาพาธ”ที่คิดดำหริมาจาก ลูกศิษย์ของวัดถ้ำบาดาลผู้มีนัยน์ตาอันกว้างไกล มองไปในโลกแห่งบุญ เป็นสิ่งที่เราจะพอประมาณกำลังช่วยเหลือได้ คือ คุณศักดิโชติ ขยันการ ผู้มีจิตใจอันดีงามและประเสริฐกว่าสิ่งใดๆที่จะประมาณมิได้ มาครับ มาร่วมบุญกันวันนี้ท่านบริจาคทรัพย์กันคนละเล็กละน้อยตามกำลังศรัทธาของท่าน เงินทุกบาทของท่านมีค่าสำหรับพระที่เจ็บป่วย สำหรับผู้บริจาคทั่วไป สามารถบริจาคได้ที่วัดโดยตรงหรือจะโอนเงินผ่านธนาคาร บัญชีของครูบาแก้ว ทางวัดมีวัตถุมงคลที่น่าบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลและเพื่อเป็นผู้ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ คือ เหรียญหมอชีวกโกมารภัจจ์ ซึ่งทางวัดถ้ำบาดาลได้จัดสร้างไว้ สำหรับลูกศิษย์ที่มาร่วมทำบุญเท่านั้น ธนาคารกสิกรไทยเลขที่188-2-99641-3 สาขาปากช่อง ชื่อพระธนภณ จิรปภาพงษ์ ธนาคารกรุงไทย บัญชีเลขที่ 264-0-25865-6 สาขาปากเพรียว ชื่อพระธนภณ อริยวํโส ส่วนผู้มีกำลังมากและมีจิตศรัทธาอันแรงกล้า จะร่วมบริจาค เป็นเจ้าภาพกองทุนสงฆ์อาพาธ ทางวัดมีสิ่งพิเศษและล้ำค่าด้วยทางจิตใจ นั้นคือ พระพรหมปางเปิดโลก ค้ำคูณ เปิดกิจการงานใดๆ มีไว้บูชา จะนำพางานของท่านให้สำเร็จไปตามความประสงค์ ทางวัดได้จัดสร้างเททองหล่อขึ้นในงานวันหล่อพระพุทธชะยันตี เมื่อวันเสาร์ที่5พ.ค.55ที่ผ่านมา มีเพียง19 องค์เท่านั้น ทางคณะเจ้าภาพ ได้ร่วมกันสร้างไว้เป็นกองทุน เพื่อมอบให้สำหรับผู้บริจาค ตั้งแต่19,999 บาท จะได้รับพระพรหม 1 องค์ (ขนาดความสูงพร้อมฐาน64ซม.) เปิดโลกเปิดกิจการความสำเร็จ พระพรหม เป็นเทพเจ้าแห่งการสร้างสรรค์ ทรงมีอานุภาพในการลิขิตชะตาชีวิต โดยควบคุมทุกอย่างให้เป็นไปตามเงื่อนไขของกฎแห่งกรรม พระพรหมจึงเป็นผู้คุ้มครองคนดี บันดาลให้มีความสุขและสมบูรณ์ในชีวิต ผู้ศรัทธาในพระพรหม เมื่อสวดบูชาต่อพระองค์แล้ว พระองค์จะประทานปัญญาในการประกอบอาชีพ ปกป้องให้ห่างจากศัตรูประทานความแข็งแรง ความรู้แจ้ง ชี้แนะแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆและมอบความบริสุทธิ์ทางจิตวิญญาณแก่ผู้บูชาพระองค์ท่าน ชำระจิตสร้างชีวิตใหม่ การปฏิบัติธรรมอันเป็นสิ่งที่กระทำอยู่เป็นประจำวันแล้วคือการสวดมนต์ ภาวนา ฟังธรรมะจากครูบาอาจารย์ จึงใคร่ของเชิญชวนผู้มีความปรารถนาในสัมมาปฏิบัติ ทำตนเพื่อให้พ้นจากกองทุกข์ทั้งหลายทั้งมวล เมื่อมีโอกาสเวลาว่าง ก็ขอต้อนรับเข้าสู่แดนอริยะธรรม ณ สถานที่นี้ คือ วัดถ้ำบาดาล ต.ลำพญากลาง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ติดต่อสอบถามรายละเอียดต่างๆได้ทุกเวลาที่สำนักงานเลขาฯเจ้าคณะตำบลธารเกษม โทร.036-346323 หรือที่ พระครูบาแก้ว อริยวํโส โทร.08-9028-3987 และที่แม่ชีพิมพัทธสุนี(ติ๋ว) สุทธิทนุธรรม โทร.08-2141-5091,08-6244-8299 ยินดีต้อนรับคณะผู้ปฏิบัติธรรมทุกท่านที่เดินทางมาเพื่อปฏิบัติธรรม ทางวัดมีที่พักสำหรับแม่ชีแม่ขาวพักได้ตามอัธยาศัยทุกคน ขอเพียงท่านเตรียมกายและเตรียมใจทีจะมาร่วมกันสร้างบารมีกับเราเท่านั้น สาธุ สาธุ สาธุ โดย จิรปภา |